เรียนผิดวิธีขยัน10ปีก็ไม่รวย คำกล่าวนี้เป็นความจริงที่เจ็บปวดสำหรับหลายคนที่พยายามทำเงินบนโลกออนไลน์โดยปราศจากทิศทางที่ชัดเจน
#เรียนผิดวิธีขยัน10ปีก็ไม่รวย คำกล่าวนี้เป็นความจริงที่ […]
#จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลงเสมอ ยามหมดหนทาง อย่าเพิ่งท้อใจ! เพราะ “เราลงต่ำ เพื่อที่จะได้ดีดตัวขึ้นสูงกว่าเดิมในห้วงเวลาที่ความรู้สึกเหมือนถูกผลักให้จนมุม ทางตันปรากฏอยู่เบื้องหน้า
ความท้อแท้เริ่มกัดกินหัวใจ นั่นคือช่วงเวลาที่เราต้องตระหนักถึงสัจธรรมข้อหนึ่งของชีวิต นั่นคือ “จังหวะชีวิตมีขึ้นมีลงเสมอ”
ไม่มีใครที่สามารถยืนหยัดอยู่บนจุดสูงสุดได้อย่างถาวร และในขณะเดียวกัน ความมืดมิดแห่งความสิ้นหวังก็ไม่ได้ยาวนานชั่วนิรันดร์
ลองมองย้อนกลับไปในเส้นทางชีวิตของเราแต่ละคน จะพบว่ามันไม่ได้ราบเรียบเหมือนผืนผ้าที่ถูกรีดจนตึง หากแต่เต็มไปด้วยเนินเขา หุบเหว และทางโค้งที่คาดเดาไม่ได้
บางช่วงเวลาเราอาจรู้สึกเหมือนถูกนำพาขึ้นสู่จุดสูงสุด สัมผัสกับความสำเร็จ ความสุข และความราบรื่น แต่ในอีกห้วงเวลาหนึ่ง เราอาจต้องเผชิญกับความล้มเหลว ความผิดหวัง และความยากลำบากจนแทบหมดเรี่ยวแรง
เมื่อถึงคราวที่ชีวิตเหมือนมาถึงทางตัน “ยามหมดหนทาง อย่าเพิ่งท้อใจ!” เพราะนั่นอาจเป็นเพียงสัญญาณว่าเรากำลังอยู่ในช่วง “ลงต่ำ” ของจังหวะชีวิต ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะจบสิ้น หรือเราจะต้องจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกนั้นตลอดไป
“เพราะไม่มีใครโชคดีหรือโชคร้ายตลอดกาล…” เหมือนดวงอาทิตย์ที่ขึ้นและตก เหมือนฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนผัน ชีวิตของเราก็เป็นเช่นนั้น
มีช่วงเวลาที่สดใสและช่วงเวลาที่มืดมิดสลับกันไป การที่เราเผชิญกับความยากลำบากในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้หรือวันต่อๆ ไปจะไม่สดใสขึ้น
จงจำไว้ว่า “เราลงต่ำ เพื่อที่จะได้ดีดตัวขึ้นสูงกว่าเดิม” เหมือนลูกบอลที่ถูกโยนลงพื้น ยิ่งตกลงไปลึกเท่าไหร่
แรงสะท้อนกลับก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ช่วงเวลาที่ยากลำบากคือการสะสมพลัง เป็นการบ่มเพาะความเข้มแข็งและความอดทน เพื่อให้เราสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดที่สูงกว่าเดิมได้อย่างมั่นคง
สิ่งที่สำคัญที่สุดในยามที่ชีวิตอยู่ในช่วงขาลงคือ “จำไว้แค่ สู้สุดใจ และอดทนให้ถึงที่สุด!”
การยอมแพ้คือการปิดโอกาสที่จะได้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ การหมดความอดทนคือการตัดรอนหนทางที่จะนำพาเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
จงใช้ความยากลำบากเป็นบทเรียน จงเรียนรู้ที่จะล้มแล้วลุกให้ไว จงมองหาโอกาสที่ซ่อนอยู่ในทุกปัญหา และจงเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองว่าเรามีความสามารถที่จะก้าวข้ามทุกอุปสรรคไปได้
ความอดทนและการต่อสู้ เปรียบเสมือนเชื้อเพลิงที่จะประคับประคองให้ไฟแห่งความหวังในใจของเราไม่มอดดับ
แม้ในวันที่มองไม่เห็นทางออก จงก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวอย่างไม่ย่อท้อ เพราะในที่สุดแล้ว จังหวะชีวิตจะนำพาเราไปสู่ช่วงเวลาที่สดใสและดีขึ้นอย่างแน่นอน
ดังนั้น ในวันที่รู้สึกว่าชีวิตมาถึงทางตัน จงเงยหน้าขึ้น มองไปยังอนาคตด้วยความหวัง อย่าปล่อยให้ความท้อแท้ครอบงำจิตใจ
จงสู้สุดใจ และอดทนให้ถึงที่สุด เพราะหลังจากช่วงเวลาที่ต่ำที่สุด มักจะเป็นช่วงเวลาของการดีดตัวขึ้นที่แข็งแกร่งและงดงามเสมอ
━━━━━━━━━━━
ลงทุนกับการเรียนรู้ = ลงทุนกับความสำเร็จ
━━━━━━━━━━━