9​ สิ่งที่ควรมี​ ก่อนเริ่มขายออนไลน์

“9​ สิ่งที่ควรมี​ ก่อนเริ่มขายออนไลน์”

1.​ “ชื่อร้าน” เทคนิคการตั้งชื่อค้าที่ต้องคำนึงถึงคือ​ อ่านง่าย​ จำง่าย​ คุ้นหู​ ติดปาก​ ค้นหาเจอง่าย

😁อ่านง่าย​ การตั้งชื่อที่อ่านยาก​ ไม่คุ้นหูคนไทย​ มีผลทำให้ร้านไม่เป็นที่จดจำ

🤔จำง่าย​ คุ้นหู​ ติดปาก​ ชื่อร้านที่ดีต้องทำให้ลูกค้าจดจำง่าย​ เห็นปุ๊บจำได้​ พูดติดปากได้ทันทียิ่งดี​ ที่สำคัญต้องสัมพันธ์กับสินค้า

🤓ค้นหาง่าย​ ลูกค้าบางคนอยากหาสินค้าโดยการเสิร์ชจากกูเกิล​ หรือ​ เสิร์ชเอนจินอื่นๆ​ การที่ทำให้ชื่อร้านเราไปอยู่ในกูเกิลที่ใครๆก็หาเจอได้ง่าย​ ก็จำเป็นเช่นกัน​ เช่น​ ขายนาฬิกา​ ก็ใช้ชื่อร้านที่มีคำว่า​ Time หรือ​ Watch​ เพราะจะค้นหาแล้วเจอง่าย

2.​ “สินค้า” เลือกจากที่ชอบ​ เลือกจากที่ใช่

🥰การเลือกสินค้าจากสิ่งที่ตัวเองชอบ​ เวลาขายคุณจะให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างชัดเจนและรวมไปถึงความสุขกับการได้ทำสิ่งที่ชอบ

😘แต่ถ้าคุณไม่ได้ชื่นชอบอะไรเป็นพิเศษ​ ลองหาสินค้าที่เข้ากับเทรนด์ในขณะนั้น​ โดยการเริ่มสำรวจจากตลาด​ ก็จะทำกำไรให้คุณได้ดีเช่นกัน

3.​ “เงินทุน” ต้นทุนการขายของออนไลน์ไม่ได้มีแค่ค่าสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น​ เงินที่นำมาลงทุนจะต้องครอบคลุมค่าใช้จ่ายอื่นๆ​ เช่นกันจัดส่ง​ แพ็คเกจสินค้า​ ดังนั้นต้องวางแผนและคิดให้รอบครอบ

4.​ “จุดยืนของร้าน” วางแผนให้ชัดเจน​ ว่าจะจัดสินค้าในการขายอย่างไร​ ขายแบบไหน​ สินค้ามีจุดขายอย่างไร

5.​ “ช่องทางการขายสินค้า” ขายที่ไหน​ ช่องทางออนไลน์ไหนดี ซึ่งแต่ละแอปพลิเคชันก็มีกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกัน

🤩ขายบนเพจ Facebook เป็นช่องทางที่ง่ายที่สุด คนขายนิยมสูงสุด และก็เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเราได้มากที่สุดเช่นกัน เพราะสมัยนี้ใครๆก็เล่น Facebook กันทั้งนั้น ทำให้สินค้าเราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายมาก ยิ่งปัจจุบัน Facebook เปิดให้ลงโฆษณา (Facebook Ads) ที่สามารถตั้งงบที่ใช้ลงโฆษณาและกำหนดกลุ่มเป้าหมายเองด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เปิดเพจขายของบน Facebook ยิ่งฮอตฮิตเข้าไปใหญ่

🤑ขายบน Instagram เป็นอีกช่องทางที่เริ่มนิยมเป็นอันดับถัดมา โดยจะเน้นการขายผ่านรูปภาพ ลงรายละเอียดได้ไม่มากเหมือน Facebook ดังนั้นหากจะขายผ่านช่องทางนี้ คุณต้องมีฝีมือในการถ่ายภาพสินค้าในระดับนึง​ เพราะ​ Intagram จะขายด้วยภาพเป็นหลัก

🥳ขายผ่าน LINE และ LINE@ ช่องทางนี้ก็เป็นอีกช่องทางที่น่าสนใจและควรมี แต่นั่นต้องหลังจากที่คุณมีเพจ Facebook หรือ ร้านบน Instagram แล้ว เพราะช่องทางนี้เป็นช่องทางที่ร้านสามารถแชทตรงกับลูกค้าได้เลย ลูกค้าจะรู้สึกเหมือนได้คุยกับคนเป็นๆ มากกว่า ร้านค้าส่วนใหญ่จึงใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเก่า เช่น การอัพเดตสินค้าคอลเลคชั่นใหม่ โปรโมชั่นล่าสุด

6.​ แผนการตลาด​ “รู้เขา​ รู้เรา​ รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง”

แผนการตลาด เป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดชะตาของร้านคุณ เพราะถึงคุณจะมีสินค้าคุณภาพดีราคาถูก แต่ถ้าไม่มีใครรู้จักร้านของคุณก็ไม่มีประโยชน์ คุณจึงควรวางแผนให้ดีว่าจะโปรโมทร้านค้าหรือสินค้าของคุณอย่างไร จะดึงดูดลูกค้าอย่างไร และจะทำให้อย่างไรให้ร้านคุณที่เพิ่งเปิดใหม่เอาชนะร้านอื่นๆ ที่เปิดมาก่อนหน้าคุณได้ การวางแผนการตลาดอาจเริ่มจากขั้นตอนต่อไปนี้

🤔วางเป้าหมายให้ชัดเจน

😳มีขั้นตอนการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เช่น เมื่อเปิดเพจแล้วจะทำให้คนรู้จักอย่างไร

🤠วางงบประมาณที่จะใช้ในขั้นตอนต่างๆ

😁วางกำหนดเวลาเพื่อประเมิน ตรวจสอบ และปรับปรุงแผน

7.​ “ช่องทางการชำระเงิน” ควรเป็นช่องทางที่ง่าย​ และสะดวกรวดเร็ว

🤓การชำระเงินควรเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้า คุณควรเปิดบัญชีสำหรับร้านของคุณกับธนาคารที่คน​ส่วนใหญ่ใช้บริการ นอกจากนี้ การทำ​ QR​ Code​ ในการจ่ายเงินก็หนทางที่สะดวกกว่าการให้เลขบัญชี

8.​ “อดทน​ มุ่งมั่น​” ความฝันก็ไม่ไกลเกินเอื้อม

🥰หลายคนเริ่มธุรกิจด้วยความรู้สึกอยากรวยเร็ว เราหวังให้การลงทุนของเราผลิดอกออกผลเป็นกำไรตั้งแต่วินาทีที่เราเริ่มเปิดร้าน แต่นั่นแทบจะเรียกได้ว่าเป็นความเพ้อฝัน เพราะเมื่อคุณเริ่มเปิดร้าน เป็นไปได้ว่าคุณจะไม่มีลูกค้าเลยในอาทิตย์แรกๆ (ไม่นับเพื่อน ญาติ และคนรู้จัก)

อาจมีลูกค้าหลายคนมาให้ความสนใจสินค้าของคุณแต่ก็จากไป คุณจะเริ่มสงสัยว่าคุณทำอะไรผิด บางครั้งอาจถึงขั้นอยากลดราคาแล้วขายทุกอย่างเพื่อให้คืนทุน อย่าทำแบบนั้น คุณต้องมั่นใจและหมั่นตรวจสอบแผนการตลาดของคุณว่าได้ผลตามคาดหรือไม่ และหัดปรับเปลี่ยน ทำอะไรใหม่ๆ เพื่อเรียกลูกค้า และอย่าท้อแท้

9.​ “เวลา” รวดเร็ว​ ทันใจ​ ใครๆก็อยากซื้อ

😁ถ้าคุณเตรียมตัวจะยึดการขายของออนไลน์เป็นอาชีพก็แล้วไป แต่ถ้าหากคุณเป็นคนที่ยังต้องทำงานประจำ คุณควรวางแผนบริหารเวลาให้ดี เพราะบางที “ความอยากได้” ของลูกค้าก็มีระยะเวลาจำกัด การที่คุณไม่สามารถโต้ตอบลูกค้าได้ทันเวลา อาจหมายถึงการเสียลูกค้าไป คุณอาจใช้ตัวช่วยอย่างระบบตอบกลับอัตโนมัติ​ เพื่อให้ลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง