ถึงคนที่บอกว่าไม่มีเวลาไม่มีต้นทุน
#ถึงคนที่บอกว่าไม่มีเวลาไม่มีต้นทุน การเริ่มต้นเป็นสิ่ง […]
1/11 : ก้าวที่ 1 เลือกสินค้าให้ได้เปรีนบตั้งเเต่เริ่มเข้าสู่การตลาดออนไลน์ สินค้าที่มีความต้องการซื้อสูงเเต่มีคนรู้จักน้อย มีช่องว่างในการขายให้เราได้สร้างจุดเเข็ง ปั้นเเบรนด์ให้ลูกค้าได้จดจำภายใน 1 ปี
สินค้าที่นำมาขายต้อทำกำไรได้มากกว่า เน้นการขายสร้างคุณค่ามากว่าปริมาณช่วยเพิ่มความประทับใจให้ลูกค้า 1 คนที่ซื้อเป็นกระบอกเสียงบอกต่อลูกค้าอีกร้อยๆคนตามมา
2/11 : ก้าวที่ 2 โฟกัสที่ลูกค้ารายใหญ่กลุ่มลูกค้ามีกำลังซื้อที่สามารถสร้างยอดขายให้มหาศาล ค้นหาลูกค้ากลุ่มนี้ให้เจอเพื่อเสนอขายสินค้าของคุณเอง
วางเเผนสร้างร้านค้าออนไลน์เพื่อเริ่มสร้างสัมพันธ์อันดีให้กับลูกค้ารายใหญ่กลุ่มนี้เข้ามาศึกษาหาข้อมูล
*** คนรวยชอบอ่านมากกว่าชอบเสพติด VDO การเขียนคือการสื่อสารที่ดีที่สุุด เขียนให้ลูกค้าเข้าใจในสัมผัสถึงพลังเขียนมากที่สุด ให้ภาษาเขียนเเทนคำพูดเรา
[3/11] : สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเน้นสร้างฐานแฟนคลับก่อนสร้างรายได้
เปิดร้านขายขึ้นมาเพื่อลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเฉพาะเจาะจงเข้าไป
เปลี่ยนมุมมองการมองลูกค้าไม่ใช่แค่ลูกค้าแต่ให้คิดว่าลูกค้าคือคนสำคัญจริงๆเพราะถ้าเราสื่อสารกับลูกค้าออกมาให้ใจถึงใจ
เราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้นานและที่สำคัญลูกค้าช่วยบอกต่อสินค้า กับคนอื่นให้เราด้วย
ยอดขายของเราจะเริ่มเติบโตเมื่อเราขายลูกค้าหนึ่งคนได้อีก 100 คนจะตามมา
ดังนั้นลูกค้าคนแรกสำคัญมากๆสำหรับการเปิดกิจการขายออนไลน์
เทคนิคที่ดีคือทำให้ลูกค้ารู้สึกใจสั่นหรือตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเราผ่านอินบ็อกซ์หรือส่งข้อความใต้คอมเม้นต์
4/11 : เปิดร้านขายตลาดบนเพียง 120 คนต่อปี ** ปิดการขายเดือนละ 10 ออเดอร์ สร้างกำไร สร้างรายได้หลายล้านต่อปี
– โฟกัสขายลูกค้า 1 คนเท่ากับ 100 คนตามมาซื้อ
– ขายสินค้า 120 คน เท่ากับ 12000 คนตามมาซื้อ
ข้อดีของการขายตลาดบน ขายน้อยได้กำไรสูงเพราะกลุ่มตลาดบนมีกระบอกเสียงที่ดัง ใช้ดีเเล้วบอกต่อ ประทับใจคุยไม่หมด คอนเทคชั่นดีที่สุด คนรู้จักเยอะมาก
หากเรารักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องธุรกิจเติบโตขึ้น โดยที่ไม่ต้องเสียค่าการตลาดอีกต่อไป เปิดธุรกิจใน 1 ปีเเรกเน้นขายเเค่ 120 คนต่อปีก็พอ สร้างฐานเเฟนคลับที่เหนียวเเน่ ดีกว่าสร้างฐานเเฟนเเต่เน้นยอด LIKE ( ยอด LIKE กินไม่ได้/ยอดซื้อสิกินได้)
5/11 : เก็บ DATA ลูกค้าทั้งละเอียดที่สุด อย่าใจร้อนรีบขายสินค้าเพราะเราจะยิงนกตัวเดียว ได้นกอีก 100 ตัวตามมา
ศึกษาพฤติกรรมความชอบไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าตลาดบนของเรา ลูกค้าชอบไปไหน อยู่ GROUP อะไรใน FACEBOOK GROUP ที่สุดไปแฝงตัวในนั้นศึกษาการพูดคุยพฟติกรรมการซื้อ
เพื่อที่เราเข้าใจกลุ่มลุกค้าที่สุด เก็บมาทำคอนเทนต์เพื่อเข้าหาลูกค้าของเราให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องขายให้คนทั้งโลกเริ่มขายคนเดียวให้ได้ก่อน
6/11 : อยากขายดีต้องมองลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ พฤติกรรมเเละนิสัยเฉพาะตัวของลูกค้าให้หยั่งรู้ลึกที่สุดเพื่อที่เราจะได้ไปนั่งในใจลูกค้า
เช่น งานอดิเรกลูกค้าคืออะไร ไลฟ์สไตล์เเบบไหน อัธยาศัยดี สุขุมสุภาพ ฯลฯ
การที่ลูกค้ามาซื้อเราไม่ใช่เรื่องบังเอิญเเต่เกิดจากความตั้งใจที่เราเลือกสินค้ามาขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่เราเก็บข้อมูลเพื่อมาสร้างร้านค้าขายเพื่อลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ
7/11 : เมื่อเรารู้เเล้วว่าลูกค้าของเราเป็นใครสิ่งที่เราต้องทำต่อมาคือโฟกัสที่ตัวเราว่าเรามีจุดเเข็งอะไรบ้าง 4 จุดเเข็งที่คุณจะต้องวิเคราะห์ตัวคุณให้ได้ก่อนเริ่มต้นขาย
– จุดเเข็งด้านการทำงาน
– จุดเเข็งด้านความเชี่ยวชาญ
– จุดเเข็งด้านงานอดิเรกหรือนิสัยใจคอเรา
– จุดเเข็งด้านการดูเเลเอาใจใส่
นั่งวิเคราะห์ตัวเองว่ามีจุดเเข็งไหนที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่เราต้องการ
จุดเเข็งจะเเสดงถึงความเป็นตัวเรามากที่สุดรวมทั้งจุดเด่นที่เรามีเพื่อนำมาสร้างจุดเเข็งของเเบรนด์เราเช่นกัน การพูดคุยกับลูกค้าจะรื่นไหลมากที่สุด สุดท้ายลูกค้าจะชอบเราเเละกลายเป็นเเฟนคลับเราในที่สุด
8/11 : การขายเราจะต้องสร้างเเบรนด์ควรคู่กันไปเพราะลูกค้าจะบอกต่อในนามเเบรนด์ของเรา เเบรนด์ก้มีความสำคัญในการเติบโตของธุรกิจเเบรนด์เราชัดเจนมากเท่าไหร่จะดึงดูดดลุกค้าเฉพาะกลุ่มที่เราต้องการมากเท่านั้น
ย้ำเป้าหมายอีกครั้งนะคะ เราจะสร้างฐานเเฟนคลับเพียง 120 คนต่อปีเเต่ 120 คนจะเป็นกระบอกเสียงให้เรา 12000 คนโดยที่คุณไม่ต้องเสียค่ายิงแอด เเต่เเบรนด์คุณต้องชัด
ราคาต้องเหมาะสมกับคุณภาพมากที่สุด งานบริการต้องเป็นเลิศ การพูดคุยต้องใช้ภาษาเดียวกับลูกค้าให้มากที่สุด ยิ่งถ่อมตัว เคารพลูกค้ามากเท่าไหร่เรายิ่งได้ใจลูกค้ามาครอบครองมากที่สุด
ตลาดบนเเพ้ความเอาใจใส่เเละนอบน้อมที่สุด
9/11 : รบ 10 ครั้งชนะ 10 ครั้ง มองลูกค้าให้ทะลุถึงใจ ช่วยดึงดูุดให้ลูกค้าวนเวียนกลับมาซื้อซ้ำ อยากอุดหนุนเฉพาะคุณ
ตลาดบนขายง่าย ซื้อซ้ำบอกต่อ เมื่อติดใจหรือได้ไว้ใจเเล้วไม่มีทางนอกใจเราเด็ดขาดถึงเเม้คู่เเข่งจะขายในราคาที่ถูกกว่า ลูกค้าเราก็ไม่ซื้อเพราะลูกค้าเชื่อว่าสินค้าเราดีไปเเล้วยากที่จะลบภาพจำได้โดยง่าย
การขายสินค้ารวมทั้งการสร้างเพจขึ้นมาก็เป็นหลักจิตวิทยาอย่างหนึ่งเพื่อให้กลุ่มลูกค้าเราตกอยู่ในวังวนร้านค้าเรา
** เสพติดคอนเทนต์ วันไหนไม่ได้เจอนอนไม่หลับ ต้องเเอบมาส่องว่าโพสตืเเล้วหรือยัง หรือวันนี้มีอะไรมาขาย เเม้กระทั่งเฝ้าจอรอเพราะสินค้าคุณมีจำนวนจำกัดกลัวไม่ทันคนอื่นก็มี
10/11 : ชกให้ตรงเป้า อย่าลังเลหลายใจโลเล สร้างเพจขึ้นมาเพื่อขายให้กับบางกลุ่ม ไม่ใช่ขาดทุกคน เลือกให้ชัด ตลาดล่าง กลาง บน หนึ่งเพจต่อ
หนึ่งตลาดยิ่งต่อ หนึ่งสินค้าเลยยิ่งดี จะทำให้คุณเข้าใจสินค้าคุณได้มากขึ้น เวลาเกิดคำถามคุณจะหาคำตอบ ยิ่งลูกค้าถามมากเท่าไหร่คุณยิ่งเก่งมากเท่านั้น
เก็บสถิติลูกค้าเสมอ ข้อมูลที่มีส่วนสำคัญในการขายหรือคนเเรกที่เราปิดการขายได้เพราะอะไร เเละสร้างคอนเทนต์มาเพื่อโฟกัสคนที่ 2 จะชัดขึ้นเรื่อยๆ
ตลาดไหนก็รวยยเท่ากันอยู่ที่ว่านิสัยการขายของคุณชอบเเบบไหน
ไม่ชอบพูด * ชอบขายเเล้วจบ >> คุณเหมาะกับตลาดล่าง เน้นปริมษณตั้ง Ai ตอบเเทน ปิดการขายง่าย เเต่ต้องเน้นจำนวน ราคาไม่เเพง
ชอบพูด ชอบบริการ * ตลาดกลาง กับ ตลาดบนเหมาะสมกับคุณที่สุดเพราะตลาดกลางเเละบนชอบอ่านรายละเอียดไม่เข้าใจจะสอบถาม หากตอบได้ดี = ขายได้ดีเช่นกัน
11/11 : การขายได้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหากเกิดจากความตั้งใจในการโฟกัสเลือกขายเแพาะกลุ่ม อยากมีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืน การเริ่มต้นต้องถูกต้องเเละถูกทาง
ลูกค้าบอกต่อในสิ่งที่ดีเท่านั้น
สินค้าที่นำมาขายต้องเป็นสินค้าที่ดี ทรงคุณค่าทางจิตใจ เมื่อผู้ซื้อ ซื้อไปเเล้วเกิดความภูมิใจที่ได้ครอบครองเเละอยากจะอวดเเละโชว์เพื่อน หากคุณเจอสินค้ากลุ่มนี้ รายได้คุณจะพุ่งทวีอย่างรวดเร็ว